挖币网

การจู่โจมล่าสุดของทรัมป์ในพื้นที่ crypto ด้วยการออก NFT และการเปิดตัว stablecoin USD1 เกี่ยวข้องกับปริมาณการซื้อขายจํานวนมาก แต่ยังเผชิญกับความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ องค์กรทรัมป์กําลังทํากําไรจากธุรกิจ crypto แต่ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบอาจนําไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง นักลงทุนกังวลว่ากิจกรรมของบริษัทจะทําให้กระบวนการทางกฎหมายของกฎระเบียบคริปโตในสหรัฐอเมริกาล่าช้า การดําเนินงาน crypto ของทรัมป์ได้รับความสนใจและความสามารถในการปกครองของเขายังไม่ได้รับการประเมิน แต่เขาได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างรายได้

นับตั้งแต่ Bitcoin ทะลุระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ ($69,000) ในปี 2024 และ Ethereum ก็ห่างหายไปจากระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ ($4,800) ข้อสงสัยเกี่ยวกับ Ethereum ก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ
ภายในปี 2025 Ethereum จะลดลงต่ํากว่า $3,000 ในเดือนกุมภาพันธ์ $2,000 ในเดือนมีนาคม และแม้แต่ $1,500 ในเดือนเมษายน ที่อยู่โบราณหลายแห่งจากยุค ICO ก็เริ่มล้าง Ethereum เช่นกัน สถาบันชั้นนําที่เคยสนับสนุน Ethereum ก็เริ่มสั่นคลอนเช่นกัน
เกิดอะไรขึ้นกับ Ethereum? มีความหวังสําหรับ Ethereum หรือไม่?
บทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่สองประเด็นนี้โดยเริ่มจากห้าด้านต่อไปนี้และทบทวนการเพิ่มขึ้นและลดลงของ Ethereum รวมถึงตั้งตารออนาคตที่เป็นไปได้ของ Ethereum
1. ปีอันรุ่งโรจน์ของ Ethereum (2017-2022)
ในเดือนกรกฎาคม 2014 Ethereum เปิดตัว I

หมายเหตุของผู้แปล: ท่ามกลางฉากหลังของภาษีที่ว่างเปล่าของทรัมป์และสถานการณ์การค้าโลกที่ผันผวนตลาดสกุลเงินดิจิทัลกําลังประสบกับความเย็นลงอย่างมาก ผู้เขียนบทความนี้วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างปัจจุบันในตลาดสกุลเงินดิจิทัลจาก 16 มิติ ในช่วงเวลาพิเศษของบทบาทสองประการของนโยบายมหภาคและกลไกตลาดอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลอาจนําไปสู่การปรับโครงสร้างมูลค่าที่ลึกซึ้งซึ่งไม่เพียง แต่เป็นกระบวนการเปลี่ยนโฉมที่โหดร้าย แต่ยังเป็นวิธีเดียวที่อุตสาหกรรมจะเติบโตเต็มที่
นี่คือมุมมองทั่วไปของฉันเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของตลาดสกุลเงินดิจิทัล หรือวิธีที่ฉันคิดว่าสกุลเงินดิจิทัลกําลังจะพัฒนา
1. หัวใจหลักของ cryptocurrencies คือวิถีของเงินในรูปแบบปัจจุบัน บล็อกเชนคือเงิน / สินทรัพย์สิ่งที่อินเทอร์เน็ตเป็นข้อมูลและเป็นผลให้การเก็งกําไรยังคงเป็นกรณีการใช้งานที่สําคัญที่สุดของอุตสาหกรรม
แม้ว่าความเร็วและขนาดของการเก็งกําไรอาจผันผวน แต่ผลลัพธ์ที่สําคัญที่สุด (และแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุด) ในพื้นที่นี้

1. การจัดระเบียบข้อเท็จจริงของคดี: ล่อลวงที่ออกแบบมาอย่างประณีต
ในปี 2023 คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ได้เริ่มฟ้องร้องบริษัทการเข้ารหัส Green United LLC ในคดีที่มีความสำคัญ โดยกล่าวหาว่าบริษัทได้ขายสินค้าที่ชื่อว่า "Green

บทความชี้ว่า นโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ในต้นปีนี้ส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง และทรัพย์สินดอลลาร์ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะหลบหนี ทรัมป์不得不เลื่อนการขึ้นภาษีเนื่องจากความปั่นป่วนในตลาดพันธบัตร และความผันผวนของผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐส่งผลต่อการพัฒนาของสงครามภาษี สุดท้ายทรัมป์ประกาศเลื่อนการเก็บภาษี และยังคงระมัดระวังต่อสภาพเศรษฐกิจ ความผันผวนของตลาดส่งผลให้การซื้อขาย基差 ปิดตำแหน่ง และเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดทองคำ ทำให้ซัพพลายดอลลาร์ทั่วโลกเพิ่มขึ้น.

มาสก์พยายามใช้เงินหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อส่งผลกระทบต่อการเมืองแต่ประสบความล้มเหลวหลายครั้ง แม้ว่าทรัมป์และพรรครีพับลิกันจะสนับสนุน มาสก์ก็ยังคงล้มเหลวซึ่งทำให้เกิดการตั้งคำถามจากสาธารณะ แม้จะยังมีผู้สนับสนุน แต่ความเสี่ยงทางการเมืองของเขาก็ประสบปัญหา สำหรับมหาเศรษฐี การมีอำนาจทางการเมืองอย่างเปิดเผยอาจส่งผลตรงกันข้าม.

ตลาดสินทรัพย์คริปโตในปี 2025 ประสบกับความผันผวน จากการขึ้นอย่างบ้าคลั่งไปจนถึงความลึกกลยุทธ์ pullback ในเดือนเมษายน อารมณ์ของนักลงทุนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา วัฏจักรประวัติศาสตร์, Halving, การเข้าร่วมของสถาบัน, นโยบายมหภาค, ด้านเทคนิค และอารมณ์ต่างๆ มีอิทธิพลต่อตลาด เผชิญกับความเสี่ยงจากหงส์ดำมหภาค, การเปลี่ยนแปลงวัฏจักร และกับดักสภาพคล่อง ความคิดเห็นในตลาดแตกต่างกัน แต่บิทคอยน์ยังคงมีศักยภาพ นักลงทุนควรยืนหยัดและรับมือกับความผันผวนของตลาดอย่างมีเหตุผล การมีชีวิตอยู่ให้นานสำคัญกว่าการวิ่งให้เร็ว.

เวลา 08:00 น. ของวันที่ 9 เมษายนตามเวลาในฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดทำการประมาณครึ่งชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ข้อความในแพลตฟอร์มโซเชียลของเขา โดยประกาศว่า "ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการซื้อ!" พร้อมกับตัวอักษร "DJT" ซึ่งเป็นตัวย่อชื่อของเขาและยังเป็นรหัสหุ้นของกลุ่มสื่อเทคโนโลยีทรัมป์ (TMTG) ด้วย.
ไม่ถึงสี่ชั่วโมงหลังจากนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศอย่างกะทันหันผ่านโซเชียลมีเดียว่าจะระงับการบังคับใช้ภาษีเท่ากันเป็นเวลา 90 วัน ตลาดตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยตลาดหุ้นพุ่งขึ้นทั่วทั้งกระดาน ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้นกว่า 9% ขณะที่ดัชนี NASDAQ ที่เน้นหุ้นเทคโนโลยีพุ่งขึ้นมากกว่า 12% และราคาหุ้นของ Trump Media Technology Group เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 22% ในวันนั้น.
การเคลื่อนไหวของทรัมป์และเวลาที่เปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีศุลกากรทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการจัดการตลาดและการซื้อขายภายใน “สมาชิกสภาคองเกรสคนใดก็ตามที่ซื้อหุ้นในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ควรเปิดเผยการทำธุรกรรมเหล่านี้” ส.ส. พรรคเดโมแครตของสหรัฐอเมริกา อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เตซ

ราคาบิทคอยน์ร่วงต่อเนื่องหลังจากทำเนียบขาวประกาศภาษีตอบโต้ใหม่ แต่เรามองว่านโยบายภาษีและความตึงเครียดทางการค้าจะส่งผลดีต่อมันในระยะยาว.
ประการแรกอัตราภาษีที่สูงทําให้เกิดภาวะ Stagflation ซึ่งมีแนวโน้มที่จะไม่ดีต่อผลตอบแทนจากสินทรัพย์แบบดั้งเดิมและดีสําหรับสินค้าโภคภัณฑ์ที่หายากเช่นทองคํา Bitcoin ไม่ได้ประสบกับวัฏจักรที่ซบเซา แต่ในฐานะสินค้าโภคภัณฑ์ที่หายากทางดิจิทัลจึงถูกมองว่าเป็นที่เก็บมูลค่าที่ทันสมัยมากขึ้น ประการที่สอง แรงเสียดทานทางการค้าอาจทําให้สถานะของดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงในฐานะสกุลเงินสํารอง กระตุ้นให้ธนาคารกลางกระจายทุนสํารองเงินตราต่างประเทศ และ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ใช่อธิปไตยอาจได้รับประโยชน์
แม้ว่านโยบายในระยะสั้นจะมีความไม่แน่นอนสูงมาก แต่เราคิดว่านักลงทุนระยะยาวควรวางกลยุทธ์ในพอร์ตการลงทุนที่สอดคล้องกับการอ่อนค่าของดอลลาร์อย่างต่อเนื่องและอัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไป ซึ่งตรงกับลักษณะของตลาดในช่วงที่มีความขัดแย้งทางการค้ารุนแรงในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา.
Bitcoin มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากสภาพแวดล้อมมหภาคนี้ ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าทําไมจึงมีประสิทธิภาพเหนือกว่าตราสารทุนบนพื้นฐานที่ปรับความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดตกต่ําเมื่อเร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้ในปี 197

ภายใต้การฟาดฟันของภาษี "ตลาดหุ้นหลายประเทศหยุดชะงัก BTC ร่วงต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์" (4.7 教链内参) BTC เคยมีการ插针สูงสุดที่ 74.5k ในช่วงที่ผ่านมานี้ เช้านี้ "ความหวาดกลัวเริ่มสงบ" (4.8 教链内参) BTC ได้拉กลับมาใกล้ 80,000 ดอลลาร์.
川皇นี้ในความพยายามเดียวที่ท้าทายสงครามภาษีทั่วโลกต่อสหรัฐอเมริกาสามารถกล่าวได้ว่าไม่มีโอกาสชนะเลย เว้นแต่สงครามภาษีของเขาจะเป็นเพียงลูกเล่นในขณะที่มีวัตถุประสงค์อื่นที่ซ่อนอยู่.
มีเพียงเส้นทางเดียวสู่ชัยชนะในการแบล็กเมล์สุดขั้วแบบนี้และนั่นคือให้คนทั้งโลกคุกเข่าลงและยอมจํานนยกมือขึ้นและยอมจํานน ตราบใดที่จีนตอบโต้อย่างเด็ดเดี่ยวแม้ว่าประเทศอื่น ๆ ทั้งหมดจะคุกเข่าเป้าหมายของสงครามภาษีเองจะไม่ประสบความสําเร็จเพราะสินค้าโภคภัณฑ์และทุนจะเลือกเส้นทางของการต่อต้านน้อยที่สุดโดยอัตโนมัติเพื่อการค้าที่สมบูรณ์และอุปสรรคทางภาษีที่สูงจะไร้ประโยชน์และจะยากที่จะพูดว่าชัยชนะ และหากเนื่องจากการตอบโต้อย่างเด็ดเดี่ยวของจีนประเทศอื่น ๆ ที่กําลังสับสนจะได้รับบทนําในการประท้วง

ตลาดทุนสะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการแบ่งภาระภาษีและความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ ภาษีของทรัมป์อาจก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก หลายประเทศได้เริ่มหาทางไกล่เกลี่ยการค้า ความต้องการบริโภคของจีนและสหรัฐฯ มีผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ผลิตและผู้บริโภค นโยบายภาษีที่ต่อเนื่องอาจนำไปสู่ "ภาวะ stagnation" การจำลองของธนาคารโลกแสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกและของสหรัฐฯ อาจถูกลดลง.

เมื่อทรัมป์พูดว่า "ภาษี" เป็นคําที่สวยที่สุดในพจนานุกรมเขาไม่สนใจว่าความงามเป็นเรื่องส่วนตัว
ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนที่โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศภาษี "ตอบโต้" ดัชนี S&P 500 ลดลงประมาณ 10.6%.
แม้แต่ทองคำที่มักถูกมองว่าไม่เกี่ยวข้องกับหุ้นก็ลดลงประมาณ 6.4% เนื่องจากข่าวภาษี
สิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจคือ ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีการแสดงผลที่แข็งแกร่งในช่วงสุดสัปดาห์.
ผู้คนได้เสนอทฤษฎีหลายอย่างเพื่ออธิบายปรากฏการณ์นี้。
บางคนเชื่อว่า สินทรัพย์คริปโตจะแสดงความต้านทานภายใต้การลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดหวังและนโยบายการผ่อนคลายเชิงปริมาณ; บางคนกล่าวว่า การขายหุ้นเมื่อวันศุกร์เป็นเพียงการไหลออกของเงินทุนจากสถาบัน; ขณะที่ Alex Thorn จาก Galaxy เชื่อว่า BTC เพียงแค่ "ต้านภาษี".
อย่างไรก็ตามหลังจากพิจารณาสั้น ๆ ว่าสินทรัพย์ crypto จะแยกตัวออกจากตลาดหุ้นมันกลับกลายเป็นเพียงจินตนาการ
เมื่อสุดสัปดาห์สิ้นสุดลง ราคาบิตคอยน์ในสัปดาห์

1. นโยบายภาษีใหม่ของทรัมป์: เนื้อหาและแรงจูงใจ
1.1 เนื้อหานโยบาย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามในคําสั่งฝ่ายบริหาร 2 ฉบับที่ทําเนียบขาวเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2568 โดยประกาศว่าสหรัฐฯ จะกําหนด "อัตราภาษีพื้นฐานขั้นต่ํา" ที่ 10% สําหรับประเทศคู่ค้า และกําหนดอัตราภาษีที่สูงขึ้นในบางประเทศ แผนภูมิอัตราภาษีที่แสดงแสดงให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกาได้กําหนดอัตราภาษีที่เทียบเท่าสําหรับประเทศต่างๆทั่วโลกตั้งแต่ 10% ถึง 50% รวมถึง 10% สําหรับสหราชอาณาจักรออสเตรเลียสิงคโปร์และประเทศอื่น ๆ 17% สําหรับฟิลิปปินส์ 20% สําหรับสหภาพยุโรป 24% สําหรับญี่ปุ่น 25% สําหรับเกาหลีใต้ 34% สําหรับจีน 46% สําหรับเวียดนามและ 49% สําหรับกัมพูชา...... นายทรัมป์ประกาศว่าภาษีใหม่นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการผลิตของสหรัฐฯ และ "ทําให้อเมริการ่ํารวยอีกครั้ง" อัตรา "อัตราภาษีพื้นฐาน" จะมีผลในวันที่ 5 เมษายน และ "อัตราภาษีซึ่งกันและกัน" จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เมษายน
นโยบายภาษีศุลกากรใหม่ของนี้มีแกนหลักคือสิ่งที่เรียกว่า "ภาษีศุลกากรที่เท่าเทียมกัน" (Reciprocal

ผลกระทบจากภาษีทำให้เกิดการทิ้งขายในระยะสั้น ดัชนีความกลัวในตลาดยังคงสูง แต่ตรรกะในตลาดคริปโตในระยะยาวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง.
ตลาดคริปโตสรุป
1. โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศนโยบาย "ภาษีที่เท่าเทียมกัน" ที่เกินความคาดหมายในวันที่ 2 เมษายน โดยใช้รูปแบบ "การครอบคลุมแบบพรม + อัตราภาษีต่อประเทศ" ทำให้ตลาดเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง.
2. ในไตรมาสแรกของปี 2025 ผลกระทบจากภาษีของทรัมป์ ทำให้ตลาดเผชิญกับการทิ้งขายอย่างตื่นตระหนกเนื่องจากขาดความเชื่อมั่น การทิ้งขายครั้งใหญ่ในตลาดนี้ไม่ได้เกิดจากการดำเนินงานที่ไม่ดีของบริษัท แต่เป็นผลมาจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากนโยบายภาษี ทำให้เกิดความรู้สึกหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในตลาดทุน และบริษัทขนาดใหญ่บางแห่งได้ถอนตัวออกไป
3. ข้อดีของสนาม: เส้นทางหลักสามเส้นในระยะยาวในอนาคต: DEFI, สเตเบิลคอยน์ และการโทเค็นของหุ้นสหรัฐฯ จะนำพา crypto ไปสู่ระดับใหม่ในเส้นทางการเงินระดับโลกของสหรัฐฯ การเก็งกำไรในสนาม: การรวมกันของ AI, depin และ crypto ในรอบนี้