เมื่อวานนี้ คำกล่าวสั้น ๆ จากประธานาธิบดี ทำให้ $XRP กระทบ, ชักชวนสูงขึ้นชั่วขณะ เซ้นได้ครองอันดับสองใน Fully Diluted Valuation (FDV) ถึงแม้มีชื่อเสียงอย่างกว้างขวาง แต่มีไม่มากน้อยคนที่เข้าใจว่า Ripple ทำอะไรจริงๆ แล้ว Ripple เป็นโกหกซับซ้อนหรือไม่ หากไม่ ทำไมเราพบผู้ใช้จริงๆ น้อยมาก ธุรกิจของ Ripple มีขนาดเท่าไหร่และสามารถยืนยันมูลค่าปัจจุบันได้หรือไม่ หากไม่ อยู่บนอะไร

บทความนี้อธิบายรายละเอียดโมเดลธุรกิจของ Ripple และวิจัยความท้าทายและข้อขัดแย้งของมัน รวมถึงการสำรวจว่านวัตกรรมในการชำระเงินข้ามชาติของมัน ร่วมกับบทบาทของ XRP ในฐานะสินทรัพย์สะพาน ได้เปลี่ยนการเป็นที่นิยมทางการเงินเป็นเกมที่มีเสี่ยงสูงในด้านสินทรัพย์และเทคโนโลยี

ธุรกิจของ Ripple คืออะไร?

Ripple มีธุรกิจด้านการชำระเงินข้ามชาติ กระบวนการการชำระเงินข้ามชาติแบบดั้งเดิมถูกแบ่งเป็นการไหลข้อมูลและการไหลทุน ในระดับการไหลข้อมูล SWIFT ถูกใช้ในการรวมมาตรฐานของประเทศส่งเงินต่าง ๆ ที่รวมกัน ในระดับการไหลทุน การล้างบัญชีและการชำระเงินถูกทำเสร็จโดยธนาคารผู้ส่งและธนาคารผู้รับเงิน หากไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างสองฝ่าย ทุนจำเป็นต้องถูกโอนผ่านธนาคารที่เกี่ยวข้องหรือธนาคารกลาง การโอนเงินส่วนใหญ่จำเป็นต้องผ่านธนาคารกลางหลาย ๆ แหล่ง ดังนั้น ปัญหาเช่น: 1. ใช้เวลานานเกินไป 2. ค่าใช้จ่ายสูง 3. ความโปร่งใสต่ำ จะเกิดขึ้น

สกุลเงินดิจิทัลเหมาะสำหรับการแก้ไขการโอนเงินและการตกลงเงิน

เริ่มแรก ให้เราพูดถึงวิธีการในสกุลเงินที่มั่นคง: บริษัท OTC/payment ในท้องถิ่นรับเงินตราต่างประเทศและแปลงเป็น USD ที่ธนาคาร จากนั้น USD จะต้องไปที่ OTC เช่น Cumberland เพื่อเป็น USDT และต่อมา USDT ทำการโอนเงินบนโซ่ ที่ปลายทาง OTC จะต้องทำการแปลง USDT เป็น USD อีกครั้ง จากนั้นทำการแลกเปลี่ยนให้เป็นสกุลเงินท้องถินผ่านทางธนาคาร ภายใต้วิธีการนี้ การโอนและการตกลงของ USDT กลายเป็นเรื่องที่ง่ายมาก แต่ความยากลำบากและบ่อนทำนองอยู่ที่เครือข่าย OTC ทั้งหมด หากใช้ USDC กระบวนการนี้จะสะดวกมากขึ้นเพราะคุณสามารถทำการฝากและถอนโดยตรงกับ Circle ที่สถานที่ที่เป็นไปตามกฎหมาย

รูปด้านล่างเป็นแผนภูมิการไหลที่ใช้ USDT ที่ด้านหนึ่งและ USDC ที่ด้านอีกด้านเป็นตัวอย่าง ในความเป็นจริงกล่องสีแดงในรูปด้านล่างคือกุญแจสำคัญสำหรับการชำระเงินต่างประเทศด้วย stablecoin นั้นคือ มี OTCs ที่สามารถให้บริการเงินฝากและถอน USDT ได้ตลอดเวลา จำนวนเงินที่พวกเขาใช้ไม่น้อย นี่คือ "ส่วนที่แพงที่สุด" ในการชำระเงินต่างประเทศ ดังนั้นนี่เป็นสถานที่ที่ Tether มีคุณสมบัติมากที่สุด นี้คือที่ที่ฉันบอกใน ""ความเห็นร่วมในช่องโหว่: Tether และลำดับการเงินโลกใหม่กล่าวถึงใน: ช่องทางและแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ ได้กลายเป็นพนักงาน Tether เพื่อช่วยกระจายเครือข่ายของมันไปสู่โลก

Ripple ซึ่งจริงๆ แล้วเป็น Sol วิธีที่ง่ายกว่า stablecoins กระบวนการของมันคือ สกุลเงินต่างประเทศไปยัง CEX ผ่านธนาคารท้องถิ่นหรือสถาบันการชำระเงินและถูกแลกเปลี่ยนเป็น XRP XRP ถูกโอนไปยัง CEX ของประเทศที่รับ แล้ว XRP ถูกแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินท้องถิ่น ภาพด้านล่างเลือกประเทศบราซิลไปยังประเทศไทยเป็นตัวอย่าง ลิงก์สกุลเงินคือ BRL -> XRP -> BHT กล่าวคือ Ripple กำลังใช้ XRP เป็นสกุลเงินสะพานเพื่อสร้างตลาดแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ

Ripple มอบโซลูชันการชําระเงินข้ามพรมแดนที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ ในสถานการณ์การชําระเงินข้ามพรมแดน SWIFT หรือ stablecoin แบบดั้งเดิมอาชีพทุนเป็นจุดปวดมาโดยตลอด ทุกครั้งที่มีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินธนาคารหรือ OTC มักจะต้องอัดฉีดเงินให้เพียงพอในบัญชีล่วงหน้าเพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการชําระเงินทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์อย่างราบรื่น ตัวอย่างเช่นในรูปแบบสกุลเงินที่มั่นคงธนาคารจะต้องมี USD เพียงพอสําหรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินและผู้ค้า OTC จําเป็นต้องจอง USDT ล่วงหน้า การระดมทุนล่วงหน้าประเภทนี้ไม่เพียง แต่ยุ่งยาก แต่ยังช่วยลดประสิทธิภาพของการใช้กองทุนได้อย่างมาก แต่ข้อดีของ Ripple คือใช้กลไกสภาพคล่องของ CEX อย่างชาญฉลาดเพื่อหลีกเลี่ยงจุดปวดในการเตรียมเงินสดล่วงหน้า โดยการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์โดยตรงบน CEX นี่คือสิ่งที่มันเกิดขึ้นความเป็นไปได้ตามความต้องการ ความเป็นไปได้ตามความต้องการ。

ความสำคัญของการสร้างใหม่ในตลาดแลกเปลี่ยนต่างประเทศคืออะไร

Ripple ไม่ได้ทำธุรกิจธรรมดาเท่านั้น มันเหมือนกับการส่งเสริมโมเดลการโอนเงินข้ามชาติใหม่ จากมุมมองด้านความปลอดภัยทางกฎหมาย ภูมิภาคต่าง ๆ มีสภาพแวดล้อมนโยบายที่แตกต่างกันและรูปแบบการทำธุรกรรมที่มีอยู่ และ Ripple กำลังพยายามส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในตลาดใหม่นี้ด้วยความพยายามของตัวเอง

ในเส้นทางการพัฒนาของ Ripple มีสององค์ประกอบสำคัญ:

1. BankBD: ให้ธนาคารเข้าใจและใช้ XRP ซึ่งเป็น sol การชำระเงินข้ามชาติ
2. ความลึกของตลาด CEX: ให้แน่ใจว่าตลาดซื้อขาย XRP ในภูมิภาคต่าง ๆ มีความสามารถในการมี likvidity ที่เพียงพอเพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเงินตราทั่วโลก

เพื่อที่จะบรรลุวัตถุประสงค์นี้ ริปเปิ้ลได้ทำอะไรไม่น้อย

เรามาพูดถึงประเด็นแรกกันก่อน Ripple ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินจํานวนมากก่อนปี 2017 เป้าหมายเริ่มต้นคือการแทนที่ SWIFT พึ่งพาข้อดีของชั้นข้อมูลร่วมมือกับธนาคารหลายแห่งและส่งเสริมกระบวนการศึกษาของตลาด ด้วยวิธีนี้ Ripple ได้ค่อยๆทําให้ธนาคารรายใหญ่ทั่วโลกเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ตัวอย่างเช่น ในเดือนกันยายน 2016 SBI (Strategic Business Innovator) ได้เข้าซื้อหุ้น 10.5% ของ Ripple เป็นเงิน 55 ล้านหุ้น ในปีเดียวกัน Ripple ยังได้รับเงินลงทุนจาก SCB (ธนาคารไทยพาณิชย์) และภายในปี 2560Cuallix เป็นสถาบันการเงินคนแรกที่พยายามส่งเสริม XRP เป็นสกุลเงินสะพาน, นอกจากนี้ยังมีการขยายธุรกิจที่ใช้ XRP เป็นสะพานสกุลเงินจำนวนมาก

ที่นี่เรายังอธิบายว่าทำไมมันหาของใช้จริงของ Ripple ยาก เพราะบริการชำระเงินข้ามชาติของ Ripple ไม่ได้เปิดเผยต่อผู้ใช้ทั่วไปหรือร้านค้าโดยตรง มันดำเนินการผ่านทางธนาคารหลักๆ และร้านค้าหรือผู้รับโอนเงินไม่จำเป็นต้องรู้เส้นทางการโอนเงินข้างหลังของธนาคาร ในความเป็นจริง ถ้าธนาคารพร้อมจะมอบส่วนหนึ่งของธุรกิจให้กับ Ripple ก็เพียงพอที่จะสนับสนุนโมเเลขธุรกิจทั้งหมด

พูดถึงจุดที่สองกันเถอะ Ripple ต้องสร้างเครือข่าย CEX ระดับโลกเพื่อให้แน่ใจว่ามีความลึกของการทำธุรกรรม XRP, การซื้อขาย 7 วัน 24 ชั่วโมง, การไหลของราคาต่ำ, และการทำธุรกรรมถอนและฝากเงินได้อย่างราบรื่น ในทางนี้, Ripple ก็ใช้ความพยายามอย่างมาก ตัวอย่างเช่นในปี 2019, Ripple ลงทุนใน Bitso, CEX แรกในเม็กซิโก, และขยายอิทธิพลในตลาดไปที่บราซิลและอาร์เจนตินา ในเวลาเดียวกัน, Coins.ph, บริษัทซื้อขายหลักในฟิลิปปินส์, กลายเป็นพันธมิตรที่ได้รับอนุญาตของ Ripple และกลายเป็น CEX ที่ได้รับการยอมรับสำหรับการชำระเงินด้วย XRP ที่ชอบศูนย์ของ Ripple, เพิ่มความถึงหาในตลาดของ Ripple อีกต่อไป

Ripple เป็นธุรกิจที่มีการขับเคลื่อนทางธุรกิจอย่างมาก หากคุณมองที่ Linkedin คุณจะพบว่า Ripple มีทีมงานทางธุรกิจและทีมงานทางการตลาดจำนวนมาก และทุกคนมีประสบการณ์ที่ดีในการให้คำปรึกษาและการลงทุนที่ระดับสูง สถานการณ์นี้อยู่นอกเหนือจากการเข้าถึงของบุคคลทั่วไป

Ripple ทำธุรกิจอย่างไรบ้างคะ?

ในปี 2023 ปริมาณการชำระเงินข้ามประเทศระดับโลกจะมีประมาณ190 ล้านล้านในทวีปแล้ว ริปเปิ้ลจากมีประมาณ 35 ล้านการทำธุรกรรมข้ามชาติและปริมาณการทำธุรกรรมประมาณ 70 พันล้าน ปริมาณนี้เล็กมากเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของการชำระเงินข้ามชาติในระดับโลก

ฉันได้สัมภาษณ์ดีลเลอร์ OTC ระดับภูมิภาคในอเมริกาลาติน ปริมาณธุรกรรมข้ามชาติรายปีของพวกเขาอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านถึง 1.5 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ นี่เป็นโต๊ะ OTC ธรรมดาเท่านั้น จากจุดนี้เป็นต้นไป มิติของการทำธุรกรรมของ Ripple นั้นเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับอิทธิพลในตลาดของการชำระเงินด้วยสกุลเงินที่มั่นคง

ตามปกติในอุตสาหกรรม ค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามชาติมักอยู่ระหว่าง 1% ถึง 2% โดยอิงจากการคำนวณนี้ หาก Ripple พึ่งพากำไรจากธุรกิจการโอนเงินข้ามชาติเท่านั้น จะเป็นเพียงการหยุดเพียงเล็กน้อย

อีกทั้งในวันก่อน ริปเปิ้ลจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือมากมายเพื่อให้ธนาคารและบริษัททางการชำระเงินใช้โซลูชันของมัน ตัวอย่างเช่นในไตรมาสแรกของปี 2020 ริปเปิ้ลให้เงินให้กับบริษัทส่งเงินขนาดยอดนิยมที่สองของโลกMoneyGram จ่ายเงินช่วยเหลือ 15 ล้านดอลลาร์, ทำให้พวกเขามีสิทธิ์ได้รับสิ่งส่งตอบแทนให้ใช้เครือข่าย Ripple

ที่จะเกิดขึ้นต่อไปสำหรับ Ripple - การขยายความรับผิดชอบและสกุลเงินคงทน

ไม่เหมือน Tether ที่พึ่งพาตรงไปต่อความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐทั่วโลกเพื่อส่งเสริมการขยายอำนาจของดอลลาร์สหรัฐ นิเคอร์เรนซี่ที่เติบโตพึงพาทั้งนั้น ระบบนิเคอร์เรนซี่ของ Ripple พึ่งพาไปที่เครือข่ายและพันธมิตรที่สร้างขึ้นเองเพื่อรักษา จุดจำกัดของธุรกิจการชำระเงินนี้เป็นไปได้อย่างชัดเจน ดังนั้น Ripple ต้องการคิดว่าจะทำอย่างไรให้ผ่านจุดจำกัดนี้ โดยขึ้นอยู่กับข้อได้เปรียบของลูกค้าในด้านองค์กร Ripple ได้เลือกทางเลือกทางธุรกิจสามของการขยายตัว - การชำระเงิน การเก็บรักษา และสเตเบิลคอยน์

พฤษภาคม 2023Ripple ซื้อ Metaco ซึ่งเป็นผู้เก็งกำไรสวิส ในราคา 250 ล้าน​​ดอลลาร์。

มิถุนายน 2024,Ripple ซื้อ Standard Custody, Standard has nearly 40 currency payment-related licenses in the United States, a major payment institution license (MPI) from the Monetary Authority of Singapore (MAS), and a VASP (Virtual Asset Service Provider) registration from the Central Bank of Ireland. Its CEO Jack McDonald also serves as the senior vice president of Ripple stable currency, which actually paves the way for Ripple to issue stable currency.

ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 Ripple ออกสกุลเงินเงินสตาเบิ้ล RLUSD อย่างเป็นทางการ และได้รับการอนุมัติจากกรมบริการทางการเงินแห่งนิวยอร์ก (NYDFS)

ในจุดนี้ Ripple สามารถถือว่าเป็นบริษัท Fintech ปกติ และสามสายธุรกิจสามารถถอดเป็นชัดเจนได้

วิธีการช่วยเหลือคริปโตให้ Ripple

ถ้าธุรกิจเองไม่มีรายได้มาก จะทำยังไงให้ Ripple มีรายได้? คำตอบคือ:ขายเหรียญ

คดีความที่ยาวนานระหว่าง Ripple และ SEC เริ่มต้นจากการขายเหรียญ

SEC กล่าวหา Ripple ขายมากกว่า $1.3 พันล้านเหรียญ XRP ให้กับ 1,278 สถาบัน, เพื่อให้เงินทุนให้กับ บริษัท คณะ SEC เชื่อว่า XRP เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้ลงทะเบียน ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายทุนทรัพย์รัฐและกำหนดให้ Ripple ต้องชำระค่าปรับมากสุดถึง 2 พันล้านดอลลาร์ เมื่อสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2023ศาลตัดว่า Ripple ต้องจ่ายเพียงประมาณ 125 ล้านเท่านั้น, แต่ผู้พิพากษากล่าวถึงว่าบริการ 'On-Demand Liquidity' ของมันอาจเกินขีดจำกัดได้

ทำไม Ripple ขายเหรียญได้มากขนาดนั้น?

เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าสภาพคล่องตามความต้องการ (ODL) เป็นแกนหลักของโซลูชันการชําระเงินข้ามพรมแดนของ Ripple ตราบใดที่รับประกันสภาพคล่องของ XRP ทุกฝ่ายไม่จําเป็นต้องระดมทุนล่วงหน้าและสามารถใช้ XRP เมื่อแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ด้วยเหตุนี้ ODL จึงให้การสนับสนุนสภาพคล่องอย่างต่อเนื่องแก่ Ripple ท้ายที่สุดผู้ถือ XRP ที่ใหญ่ที่สุดคือ Ripple เอง ยิ่งไปกว่านั้นในฐานะที่เป็นสกุลเงินสะพานสําหรับการชําระเงินข้ามพรมแดน XRP ไม่ควรถูกกําหนดให้เป็นความปลอดภัย แต่เป็นสกุลเงิน

On-Demand Liquidity is actually a very good way to kill three birds with one stone in Ripple’s business.

Ripple closely binds business needs to the circulation of XRP. The liquidity of XRP in business scenarios not only provides the foundation for Ripple’s narrative, but also makes its operations in the capital market easier.

การทดลองการเงินระดับสูง

รูปแบบธุรกิจของ Ripple ได้ค่อยๆ เปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์เป็นการดําเนินงานด้านเงินทุน และค่อยๆ พัฒนาเป็นวิธีการทํากําไรแบบ "ขับเคลื่อนด้วยฉันทามติของตลาด" นี่คือเหตุผลที่เราหัวเราะและเรียก Ripple ว่ามีมชิปสีน้ําเงินที่เป็นไปตามความผันผวนของนโยบายที่เอื้ออํานวยเท่านั้น

ในความคิดของฉัน, วิจัยทางธุรกิจของ Ripple เป็นการทดลอง "ป๊อปูลิสต์ทางการเงิน" ที่มีความชาญฉลาด มันดึงดูดการมีส่วนร่วมของสถาบันการเงินหลักๆ โดยการห่อหุ้มจุดจำเป็นของการชำระเงินข้ามชาติ ในเวลาเดียวกันใช้การเอื้อต่อทางความคิดของ Crypto retail เพื่อขยายความสำคัญทางกลยุทธ์ของธุรกิจของมัน นอกจากนี้ยังช่วยให้การดำเนินธุรกิจของ Ripple หลุดพ้นจากเส้นทาง "ผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจ" ที่เริ่มเกิดขึ้นในบริษัท Fintech ดั้งเดิมและเข้าสู่สายงานที่มีความเสี่ยงสูง ความได้เปรียบสูง ซึ่งขึ้นอยู่กับ "เรื่องราวตลาด" และ "ตรรกะทุน"

เราไม่มีวิธีทราบว่าจุดประสงค์เดิมๆ ของฝ่ายโครงการคืออะไร เช่น ใช้การดำเนินงานทางการเงินเพื่อรับเงินทุนเริ่มต้นเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม หรือยืมสินค้ามูลค่าบางอย่างเพื่อเล่นเกมการอุดมคติทางการเงิน แต่สิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้คือ การควบคุมอย่างละเอียดของ Ripple ที่เน้นที่การมวลชนทางการเงิน

ในตลาดการเงิน การสร้างค่าและการรับรู้ค่า มักจะไม่เท่าเทียมกันอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีการเสี่ยงสูงอย่าง Crypto เช่น “ความเห็นร่วม” ในตลาดเองสามารถเป็นรูปแบบธุรกิจได้ และ Ripple เป็นกรณีตัวอย่างของโมเดลนี้ มันไม่พึงพอใจแค่ในการเติบโตของผลิตภัณฑ์เพื่อขับเคลื่อนรายได้เหมือน Fintech ดั้งเดิม หรือไม่พึงพอใจอย่างสมบูรณ์ในฟองสบู่ความเห็นเกี่ยวกับ Crypto เท่านั้น แต่มันใช้ระบบการเงินที่เป็นไปตามกฎหมายอย่างชาญฉลาด โดยใช้การรับรองจากสถาบันเพื่อเป็นการรับรองความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งขยายเรื่องราวของมันด้วยนโยบายและอารมณ์ของตลาด

Ripple สร้างมูลค่าหรือสร้างความเชื่อ? ส่วนสำคัญของการเป็นประชาชนทางการเงินระดับสูง ๆ มักตั้งอยู่ในขอบเขตที่ไม่แน่นอนนี้

คำปฏิเสธ:

1. บทความนี้ถูกพิมพ์ซ้ำจาก [ X]. The copyright belongs to the original author [@YettaSing]. If you have any objections to the reprint, please contact Gate การเรียนรู้ทีมจะดำเนินการให้เร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง
2. ข้อความถูกต้อง: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เพียงแสดงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น และไม่เกิดเป็นการให้คำแนะนำในการลงทุนใด ๆ
3. เวอร์ชันภาษาอื่น ๆ ของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn และไม่ได้กล่าวถึงGate.io, บทความที่ถูกแปลอาจไม่ถูกทำสำเนา แจกจ่าย หรือลอกเลีย