世链财经_

> หัวข้อเดิม: อัตราภาษีและความวุ่นวาย
> ผู้เขียนต้นฉบับ: UkuriaOC, CryptoVizArt, Glassnode
> แปลต้นฉบับโดย: Daisy, ChainCatcher
รัฐบาลทรัมป์ประกาศนโยบายภาษี "วันปลดปล่อย" ส่งผลให้ตลาดการเงินเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง ดัชนีเศรษฐกิจหลักส่วนใหญ่ลดลง และตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยมีการลดลงทั่วทั้งระบบ.
บทคัดย่อ
· ข่าวการเพิ่มภาษีศุลกากรของสหรัฐอเมริกาได้สร้างความปั่นป่วนอย่างรุนแรงต่อตลาดการเงินหลักทั่วโลก หลายตลาดประสบกับวันที่การซื้อขายที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020.
· การไหลเข้าของเงินทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเกือบจะหยุดนิ่ง สภาพคล่องลดลงอย่างมาก ส่งผลให้เกิดแรงกดดันลงอย่างรุนแรง.
· อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มราคาของบิตคอยน์และอีเธอเรียม ดูเหมือนว่าขณะที่ราคาได้ลดลง ขนาดของการขาดทุนที่ออกจากตลาดลดลงอย่างต่อเนื่อง หรือ

แผนกการเงินของบริษัท SEC ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า กระบวนการขุดเหมืองที่ใช้โปรโตคอลไม่อยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ ผู้เข้าร่วมไม่จำเป็นต้องสมัครใช้งานกับ SEC หรือปฏิบัติตามข้อกำหนดการยกเว้นการลงทะเบียน กระบวนการขุดเหมืองรวมถึงการขุดเองและการเข้าร่วมพูลขุด แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการคาดหวังว่าจะได้รับผลกำไรจากความพยายามของผู้อื่น ตามกรณีตัวอย่างของ Howe รางวัลจากกระบวนการขุดเหมืองมาจากการมีส่วนร่วมในเครือข่ายของนักขุด และไม่เกี่ยวข้องกับความพยายามของบุคคลที่สาม ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะที่มีการจัดระเบียบหรือมีการมีส่วนร่วม.

ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน ที่ทรัมป์ประกาศเก็บ "ภาษีที่เท่าเทียมกัน" กับประเทศคู่ค้าใหญ่ รวมถึงจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มประสบกับการดิ่งลงในระดับที่แตกต่างกัน — ตลาดหุ้นสหรัฐประสบกับการร่วงครั้งใหญ่หลังจากการประกาศนโยบาย โดยในวันเดียวดัชนีฟิวเจอร์ส Nasdaq ลดลง 4.7% ดัชนีฟิวเจอร์ส S&P 500 ลดลง 5% และดัชนีฟิวเจอร์ส Dow Jones ลดลงอย่างรุนแรงถึง 1822 จุด จนถึงวันที่ 9 เมษายน ดัชนี S&P 500 ลดลงสะสม 18.9% จากจุดสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ มูลค่าตลาดหายไป 5.8 ล้านล้านดอลลาร์ สร้างสถิติการลดลงติดต่อกันสี่วันที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่ปี 1950; หุ้นเทคโนโลยีกลายเป็น "พื้นที่ที่ประสบภัย" ในครั้งนี้ ราคาหุ้นแอปเปิลลดลง 23% ในสี่วัน มูลค่าตลาดของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีเจ็ดแห่ง เช่น ไมโครซอฟท์ และเอ็นวิเดีย รวมกันหายไป 1.65 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งการกระทบนี้มาจากความเสี่ยงในการหยุดชะงักของห่วงโซ่หมุนเวียน — 75% ของชิ้นส่วนของแอปเปิลขึ้นอยู่กับการผลิตในเอเชีย ต้นทุนภาษีถูกส่งผ่าน

ด้วยการพัฒนาระบบนิเวศแบบ on-chain ความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยจะค่อยๆย้ายจากแพลตฟอร์มไปยังผู้ใช้ ผู้ใช้ต้องระมัดระวังเมื่อใช้งานบนโซ่เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเช่นการรั่วไหลของกุญแจส่วนตัว ขอแนะนําให้ปฏิเสธลายเซ็นตาบอดและตรวจสอบรายละเอียดการทําธุรกรรมซ้ํา ๆ คําแนะนําด้านความปลอดภัยรวมถึงการเลือกกระเป๋าเงินที่ปลอดภัยเปิดใช้งาน 2FA หลีกเลี่ยง Wi-Fi สาธารณะและอื่น ๆ ในการทําธุรกรรมที่ปลอดภัยคุณต้องใส่ใจกับการติดตั้งกระเป๋าเงินการเข้าถึง DApp ฯลฯ เพื่อป้องกันฟิชชิง ขอแนะนําให้เลือกลิงก์ DApp อย่างระมัดระวังใช้กระเป๋าเงินที่ปลอดภัยจัดเก็บวลีเมล็ดพันธุ์สํารอง ฯลฯ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ช่องข่าวผู้บริโภคและพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา (CNBC) เปิดเผยว่ามีการแพร่ระบาดของ "ผู้สมัครงานปลอม" ที่ใช้เทคโนโลยีการปลอมแปลงเชิงลึกของ AI เพื่อปลอมตัวเป็นบุคคลอื่น.
　　ตามรายงานเมื่อ Pindrop Security สตาร์ทอัพการรับรองการออกเสียงภาษาจีนแบบอเมริกันเพิ่งโพสต์ตําแหน่งวิศวกรระยะไกลทางออนไลน์โปรแกรมเมอร์ชาวรัสเซียชื่อ "Ivan" โดดเด่นด้วยประวัติย่อที่สมบูรณ์แบบและประสบความสําเร็จในการสัมภาษณ์ อย่างไรก็ตามในระหว่างการสัมภาษณ์ทางวิดีโอนายหน้าสังเกตเห็นว่าการแสดงออกทางสีหน้าของเขาไม่สอดคล้องกับคําพูดของเขาอย่างละเอียด ในไม่ช้าข้อเท็จจริงก็ปรากฏขึ้น: เขาเป็นผู้หางานที่ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อปลอมตัว
Vijay Balasubramaniyan ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Pindrop กล่าวว่า ผู้สมัครคนนี้ ซึ่งบริษัทเรียกว่า "อีวาน X" ใช้ปัญญาประดิษฐ์แบบสร้างสรรค์และเทคโนโลยีการปลอมแปลง รวมถึงความลึกปลอมและเสียงสังเคราะห์ เพื่อพยายามหลอกลวง

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศเกาหลีได้เปิดหลักสูตรใหม่ในระดับบัณฑิตศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายพื้นฐานของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับจริยธรรม โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างการศึกษาในส่วนที่เชื่อมโยงเทคโนโลยีกับกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดในยุค AI.
　　บัณฑิตวิทยาลัยทรัพย์สินทางปัญญาของสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงแห่งเกาหลี (KAIST) ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ตามข้อตกลงกับสํานักงานทรัพย์สินทางปัญญาของเกาหลี บัณฑิตวิทยาลัยรับหลักสูตรที่วิทยาเขตหลักของ KAIST ในแทจอนรวมถึงสาขาวิชาเทคนิคเช่นเทคโนโลยีสารสนเทศเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมเทคโนโลยีชีวภาพนาโนเทคโนโลยีและเทคโนโลยีการบรรจบกันและใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบในสถานที่ของแทจอนในฐานะเมืองศูนย์กลางสําหรับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาหลีเพื่อเข้าร่วมในการฝึกอบรมภาคปฏิบัติในสาขาต่างๆเช่นหุ่นยนต์ยานพาหนะไฟฟ้าเทคโนโลยีชีวภาพและอื่น ๆ ในขณะเดียวกันวิทยาเขตของบัณฑิตวิทยาลัยในกรุงโซลมุ่งเน้นไปที่การศึกษาด้านกฎหมายและการจัดการและปัจจุบันเปิดสอนหลักสูตรต่างๆเช่น metaverse, AI และ IP ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรดั้งเดิมลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าการออกแบบความลับทางการค้ากฎหมายต่อต้านการผูกขาดการค้าดิจิทัลและทรัพย์สินทางปัญญา

> แหล่งที่มาของต้นฉบับ: Huma Finance
Huma Finance เครือข่ายการเงินการชําระเงินแห่งแรกประกาศเปิดตัว Huma 2.0 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผลตอบแทนจริงที่ไม่ได้รับอนุญาตสอดคล้องและประกอบได้ซึ่งสร้างขึ้นบน Solana แพลตฟอร์มนี้นับเป็นก้าวสําคัญในการเปิดให้ผู้ใช้ทั่วโลกได้รับรายได้ที่มั่นคงและเป็นจริงที่เกิดจากการจัดหาเงินทุนการชําระเงินทั่วโลกที่ได้จากกิจกรรมการซื้อขายเชิงพาณิชย์ในแต่ละวันเนื่องจากหมวดหมู่ของรายได้ที่มั่นคงเป็นตัวเลขสองหลักที่ก่อนหน้านี้เข้าถึงได้ยากนอกการเงินของสถาบัน บริการออกใบอนุญาตที่มีอยู่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Huma Institutional พร้อมกันเพื่อให้บริการนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนที่ได้รับการรับรองต่อไป ผู้ใช้สามารถเริ่มฝากเงินบนแพลตฟอร์ม Huma 2.0 ใหม่ได้ทันที
Huma 2.0 มอบวิธีการเข้าร่วมการให้สภาพคล่องที่หลากหลายสำหรับผู้ใช้ โดยมีการเปิดตัวสองโหมดหลักเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน: โหมดคลาสสิก

> ชื่อเรื่องต้นฉบับ: Market Byte: อัตราภาษี, สเตกเฟชัน, และบิตคอยน์
> ผู้เขียนต้นฉบับ: Zach Pandl
> แปลต้นฉบับโดย: Asher, Odaily Star Daily
หมายเหตุบรรณาธิการ: บทความนี้วิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในนโยบายภาษีทั่วโลกของสหรัฐฯ ที่มีต่อตลาดการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสิทธิภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bitcoin ในกระบวนการนี้ ผลกระทบระยะยาวของภาษีต่อเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกจัดสรรสินทรัพย์ในช่วงระยะเวลาของ stagflation และประสิทธิภาพของ Bitcoin และทองคําในสภาพแวดล้อมนี้ วิเคราะห์ผลกระทบของความตึงเครียดทางการค้าในปัจจุบันที่มีต่อดอลลาร์สหรัฐและการยอมรับ bitcoin ที่อาจเกิดขึ้นและในที่สุดก็ให้แนวโน้มเศรษฐกิจในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าโดยชี้ให้เห็นว่าสินทรัพย์สินค้าโภคภัณฑ์ที่หายากเช่น bitcoin และทองคํามีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจและความต้องการมากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง
ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน สหรัฐอเมริกาได้ประกาศภาษีทั่วโลกใหม่

> หัวข้อดั้งเดิม: มุมมองตรงกันข้าม: การที่ Stablecoins รบกวนการสร้างเงินขัดขวางความก้าวสู่การยอมรับในวงกว้าง
> ผู้เขียนต้นฉบับ: @DeFi\_Cheetah, @VelocityCap\_นักลงทุน
> แปลต้นฉบับ: zhouzhou,
หมายเหตุจากผู้เขียน: สเตเบิลคอยน์ผสมผสานนวัตกรรมทางเทคโนโลยีกับระบบการเงิน นำเสนอประสิทธิภาพการชำระเงินในขณะเดียวกันก็ท้าทายการควบคุมเงินของธนาคารกลาง พวกมันคล้ายกับ "ธนาคารที่มีการสำรองทั้งหมด" แม้จะไม่สร้างเงินเครดิต แต่ก็อาจมีผลต่อสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ย การพัฒนาในอนาคตอาจมุ่งสู่ระบบการสำรองบางส่วนหรือร่วมกับ

> หัวข้อเดิม: Stablecoins: การชำระเงินโดยไม่ต้องมีคนกลาง
> ผู้เขียนต้นฉบับ: Chris Dixon, หุ้นส่วน a16z
> แปลต้นฉบับโดย: Felix, PANews
อินเทอร์เน็ตทำให้ข้อมูลกลายเป็นฟรีและทั่วโลก แล้วทำไมการโอนเงินยังคงยากและมีค่าใช้จ่ายสูงอยู่?
อินเทอร์เน็ตยุคแรกสัญญาว่าจะมีอนาคตที่ทุกคนสามารถเผยแพร่สร้างหรือแลกเปลี่ยนโดยไม่ได้รับอนุญาต โปรโตคอลเช่นอีเมลและเวิลด์ไวด์เว็บเปิดกว้างและเป็นกลางทําให้ความคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการระเบิดได้ แต่ในกระบวนการของการพัฒนามันเบี่ยงเบนไปจากการติดตาม
ปัจจุบัน ระบบการเงินทั่วโลกเปรียบเสมือนกับแพทช์เน็ตเวิร์กที่ประกอบด้วยเครือข่ายธุรกิจ: มีศูนย์กลาง, ปิดล้อม และมีลักษณะการปล้นสะดม ทุกการทำธุรกรรมมีพื้นฐานจากกลไกของรูบ์ โกลด์เบิร์ก (หมายเหตุ: เป็นกลไกที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้สิ่งที่ซับซ้อนกลายเป็นสิ่งที่ง่าย)

> ชื่อเรื่องต้นฉบับ: ผลกระทบของภาษีของทรัมป์ต่อการขุดบิตคอยน์
> ผู้เขียนต้นฉบับ: Jaran Mellerud
> ต้นฉบับแปลโดย: Shenchao TechFlow
นโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์จะส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการขุดบิตคอยน์ นี่คือการวิเคราะห์ผลกระทบของนโยบายนี้ต่ออุตสาหกรรม.
4 เม.ย.